![](http://www.108nung.com/wp-content/uploads/2011/03/%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%87-%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87.gif)
เรื่องย่อ : บางกอก เมื่อ พ.ศ. 2466 ลิเกกำลังเสื่อมความนิยม มหรสพใหม่ที่เรียกกันว่าภาพยนตร์กำลังเป็นที่จับตามอง แม้ในแง่กลุ่มคนดูจะไม่ได้แย่งกันอย่างเด่นชัด แต่ในแง่ศักดิ์ศรีของความเป็นมหรสพพื้นบ้านที่สืบสานต่อกันมาจนเป็นมรดกของ ชาติ บัดนี้กลับถูกมหรสพต่างชาติรุกรานวิกลิเกต้นไทร ท้ายวัดสระเกษ วิกลิเกที่ยอมรับกันว่ามีคนดูในอันดับต้นๆ ของบางกอก เพราะติดใจในเรื่องราวที่ผูกขึ้นมาไม่ซ้ำใคร และลีลาของ บุญเท่ง (เท่ง เทิดเถิง) กับ ลิ้นจี่ (อิสรีย์ สงฆ์เจริญ) คู่พระนางสายเลือดแท้ๆ ของนายแดงเจ้าของวิก (อุดม ชวนชื่น) ทำให้วิกลิเกแห่งนี้ยังคงสร้างความสำราญอยู่ได้จนมีจดหมายจากทางการขอความ ร่วมมือ อำนวยความสะดวกให้กองถ่ายภาพฉายภาพยนตร์เรื่อง นางสาวสุวรรณ กำลังจะมาใช้สถานที่ซึ่งมีต้นไทรและภูเขาทองมองเห็นเป็นเบื้องหลัง โดยจำเป็นต้องรื้อวิก บุญเท่ง และชาวคณะ (นุ้ย ชวนชื่น และ กิ๊บ โคกคูน) ไม่ยอมถึงกับประกาศกร้าวให้สยามต้องเลือกว่าถ้ามีนางสาวสุวรรณต้องไม่มีลิเก ต้นไทร แน่นอนสยามเลือกนางสาวสุวรรณการต่อต้านการขัดขวางทุกรูปแบบจึงได้เริ่มขึ้น โดยมี น้อยโหน่ง (โหน่ง ชะชะช่า) นักเลงคุมถิ่นที่มาติดพัน ลิ้นจี่ น้องสาวบุญเท่งเข้าร่วมด้วย เรื่องราวคงจบลงโดยง่าย ถ้านางเอกที่แสดงเป็นนางสาวสุวรรณ ไม่ใช่คนเดียวคนนั้นที่ บุญเท่ง เฝ้าฝันถึง เธอชื่อ นวลจันทร์ (นิกัลยา ดุลยา) บุญเท่งกลายเป็นตัวแทนของลิเก ส่วนนวลจันทร์ก็กลายเป็นตัวแทนของภาพยนตร์เรื่องนางสาวสุวรรณไปโดยปริยาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น